ถั่วดาวอินคา (Plukenetia volubilis) หรือที่เรียกกันว่า Sacha Inchi เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีถิ่นกำเนิดในป่าเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในแถบลุ่มน้ำอเมซอนของประเทศเปรู โบลิเวีย และโคลอมเบีย
ในปัจจุบัน ถั่วดาวอินคาได้รับความนิยมอย่างมากในวงการสุขภาพ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งของ กรดไขมันโอเมก้า 3, 6 และ 9 รวมถึงมีโปรตีน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง จึงถูกขนานนามว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” (Superfood) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของถั่วดาวอินคา
- ลำต้น: เป็นไม้เถาเลื้อย สามารถยาวได้ถึง 2-3 เมตร
- ใบ: รูปหัวใจ สีเขียวเข้ม มีขอบเรียบ
- ดอก: ขนาดเล็ก สีขาวอมเขียว ออกเป็นช่อ
- ฝัก: มีลักษณะเป็น ดาว 4-7 แฉก สีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
- เมล็ด: มีลักษณะกลมแบน สีน้ำตาลเข้ม และมีเปลือกแข็ง
คุณค่าทางโภชนาการของถั่วดาวอินคา
ถั่วดาวอินคาอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ ไขมันดี วิตามิน และโปรตีน ซึ่งช่วยบำรุงสุขภาพในหลายด้าน ใน ถั่วดาวอินคา 100 กรัม มีสารอาหารดังนี้
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 500-600 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 27-33 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 6-8 กรัม |
ไขมันรวม | 45-54 กรัม |
กรดไขมันโอเมก้า-3 | 45% |
กรดไขมันโอเมก้า-6 | 36% |
กรดไขมันโอเมก้า-9 | 9% |
ใยอาหาร | 6-8 กรัม |
วิตามินอี | สูง |
ธาตุเหล็ก | สูง |
สรรพคุณและประโยชน์ของถั่วดาวอินคา
1. แหล่งโอเมก้า 3 สูง ดีต่อสมองและหัวใจ
- มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูงกว่าน้ำมันปลา ซึ่งช่วย ลดคอเลสเตอรอล ลดไตรกลีเซอไรด์ และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- โอเมก้า-3 ยังช่วย บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้ความจำดีขึ้น
2. ช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ไขมันดีในถั่วดาวอินคา ช่วยเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกาย
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
3. ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอวัย
- มีวิตามินอีและสารโพลีฟีนอล ช่วยลดริ้วรอย และทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
- ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ และลดการอักเสบในร่างกาย
4. เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- มี โปรตีนสูงถึง 27-33% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
5. บำรุงกระดูกและข้อ
- มี แคลเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
6. ลดอาการอักเสบ และช่วยให้หลับสบาย
- มี สารต้านอักเสบตามธรรมชาติ ที่ช่วยลดอาการปวดข้อและโรคข้อเสื่อม
- มีกรดไขมันโอเมก้า-9 ที่ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
การนำถั่วดาวอินคาไปใช้ในอาหารและผลิตภัณฑ์
1. เมล็ดถั่วดาวอินคาคั่ว
- สามารถนำ เมล็ดไปคั่วให้สุก และรับประทานเป็นของว่าง
- มีรสชาติคล้ายถั่วลิสง แต่มีเนื้อสัมผัสที่เบากว่า
2. น้ำมันถั่วดาวอินคา (Sacha Inchi Oil)
- สกัดจากเมล็ด สามารถใช้เป็น น้ำมันปรุงอาหาร หรือน้ำมันสลัด
- มีประโยชน์มากกว่าน้ำมันมะกอก และช่วยลดคอเลสเตอรอล
3. แป้งถั่วดาวอินคา
- นำเมล็ดไปบดเป็นแป้ง ใช้ทำขนมปัง คุกกี้ และโปรตีนบาร์
4. เครื่องดื่มจากถั่วดาวอินคา
- มีการนำไป สกัดเป็นนมพืช (Sacha Inchi Milk) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้แพ้นมวัว
วิธีการปลูกและดูแลถั่วดาวอินคา
1. การเตรียมดินและพื้นที่ปลูก
- ต้องการดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี
- ต้องการแสงแดดเต็มวัน วันละ 6-8 ชั่วโมง
2. การปลูกถั่วดาวอินคา
- ใช้วิธีเพาะเมล็ดลงดินโดยตรง หรือเพาะต้นกล้าแล้วนำไปปลูก
- ควรมีค้างไม้หรือโครงเหล็กให้ต้นเลื้อย
3. การดูแลรักษา
- รดน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรให้น้ำขัง
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทุก 2-3 สัปดาห์
4. การเก็บเกี่ยว
- สามารถเก็บเกี่ยวฝักได้เมื่ออายุ 6-8 เดือน
- ฝักที่แก่เต็มที่ จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และสามารถนำไปตากแห้งเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อไป
ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วดาวอินคา
- เมล็ดถั่วดาวอินคาดิบไม่ควรรับประทาน เนื่องจากมีสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย ควรนำไป คั่วหรืออบให้สุกก่อนรับประทาน
- ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรือท้องเสีย
สรุป
- ถั่วดาวอินคาเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีไขมันดี วิตามิน และโปรตีนที่มีประโยชน์
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และบำรุงสมอง
- สามารถนำไปแปรรูปเป็นเมล็ดคั่ว น้ำมันถั่วดาวอินคา และผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ
- เป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และให้ผลผลิตสูง
ถั่วดาวอินคาจึงเป็นหนึ่งในพืชที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ และต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง!