พริกไทยขาว (White Pepper) เป็นเครื่องเทศที่ได้จากผลสุกของต้นพริกไทย (Piper nigrum) โดยนำผลพริกไทยแดงสุกมาแช่น้ำเพื่อให้เปลือกนอกหลุดออก เหลือเพียงเมล็ดด้านในสีขาวนวล แล้วนำไปตากแห้งจนได้เป็นพริกไทยขาว พริกไทยขาวมีกลิ่นและรสเผ็ดร้อนคล้ายพริกไทยดำ แต่กลิ่นจะอ่อนกว่า นิยมใช้ในอาหารที่ต้องการสีที่สะอาด ไม่ต้องการจุดสีดำของพริกไทยดำ เช่น ซุปขาว ซอส หรืออาหารทะเล
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพริกไทยขาว
- ลำต้น: เป็นไม้เถาเลื้อย มีรากเกาะตามต้นไม้หรือเสาหลัก
- ใบ: ใบเดี่ยวรูปไข่หรือรูปรี ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมัน
- ดอก: ออกเป็นช่อเชิงลดขนาดเล็ก สีขาวหรือสีเขียว
- ผล: ผลกลมขนาดเล็ก สีเขียวเมื่ออ่อน สีแดงเมื่อแก่ และเมื่อนำไปลอกเปลือกจะได้เมล็ดสีขาวที่เป็นพริกไทยขาว

ความแตกต่างระหว่างพริกไทยขาวและพริกไทยดำ
- กระบวนการผลิต:
- พริกไทยดำ: ใช้ผลพริกไทยที่ยังไม่สุกเต็มที่ นำมาตากแห้งทั้งเปลือก ทำให้มีสีดำ
- พริกไทยขาว: ใช้ผลพริกไทยที่สุกเต็มที่ นำมาแช่น้ำและลอกเปลือกออก เหลือเพียงเมล็ดด้านในสีขาว
- รสชาติและกลิ่น:
- พริกไทยดำ: มีกลิ่นหอมแรงและรสเผ็ดร้อนจัด
- พริกไทยขาว: มีรสเผ็ดร้อนน้อยกว่า และมีกลิ่นหอมที่อ่อนกว่าพริกไทยดำ
คุณค่าทางโภชนาการของพริกไทยขาว (ต่อ 100 กรัม)
- พลังงาน: 296 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต: 68 กรัม
- โปรตีน: 10 กรัม
- ไขมัน: 3.3 กรัม
- ใยอาหาร: 26 กรัม
- ธาตุเหล็ก: 7 มิลลิกรัม
- แคลเซียม: 440 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม: 1,250 มิลลิกรัม
- วิตามินซี: 31 มิลลิกรัม
สรรพคุณของพริกไทยขาว
- ช่วยขับลมในลำไส้ – ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และแน่นจุกเสียด
- ช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ – มีฤทธิ์ช่วยละลายเสมหะและทำให้หายใจสะดวกขึ้น
- ช่วยเผาผลาญไขมัน – กระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก
- กระตุ้นระบบย่อยอาหาร – ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ลดอาการท้องอืด
- ช่วยลดอาการปวดข้อ – มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ใช้เป็นส่วนผสมในยาทานวดแก้ปวดข้อ
- ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด – เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน – มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง
- ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน – ช่วยลดอาการปวดเกร็งในช่องท้อง
วิธีการใช้พริกไทยขาว
1. ใช้พริกไทยขาวเป็นยาแผนไทย
- ต้มน้ำดื่มเพื่อแก้ไอ ขับเสมหะ และขับลม
- ใช้บดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้ง รับประทานเพื่อลดไข้และแก้เจ็บคอ
- ใช้ตำรวมกับสมุนไพรอื่นเพื่อพอกแก้ปวดข้อ
2. ใช้พริกไทยขาวเป็นเครื่องเทศ
- ใช้ในอาหารที่ต้องการสีสะอาด เช่น ซุปขาว ซอส และอาหารทะเล
- ใส่ในซอส เครื่องหมักเนื้อ หรือใช้ร่วมกับขิง กระเทียม และขมิ้นเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อน
- ใส่ในชาสมุนไพรเพื่อช่วยย่อยอาหารและเพิ่มความสดชื่น
วิธีการปลูกพริกไทยขาว
พริกไทยขาวเป็นพืชที่ปลูกง่ายในเขตร้อน ต้องการความชื้นสูงและแสงแดดรำไร วิธีการปลูกมีดังนี้:
- การเตรียมดิน – ใช้ดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี
- การปลูก – ใช้วิธีปักชำกิ่งหรือต้นกล้า ควรมีไม้พยุงให้เถาเลื้อย
- การดูแลรักษา – รดน้ำวันละครั้ง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เดือนละครั้ง
- การเก็บเกี่ยว – สามารถเก็บเกี่ยวผลได้เมื่อมีอายุ 8-12 เดือน ผลควรเก็บเมื่อสุกเต็มที่ (สีแดง) แล้วนำไปแช่น้ำและลอกเปลือกออกเพื่อทำเป็นพริกไทยขาว
ข้อควรระวังในการใช้พริกไทยขาว
- ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป – อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร
- ผู้ที่มีโรคกระเพาะอาหารควรหลีกเลี่ยง – อาจทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ – อาจมีผลต่อฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด
สรุป
พริกไทยขาว (White Pepper) เป็นเครื่องเทศที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับพริกไทยดำ แต่มีรสเผ็ดร้อนน้อยกว่าและมีกลิ่นหอมที่อ่อนกว่า นิยมใช้ในอาหารที่ต้องการสีสันที่สะอาดและไม่ต้องการจุดสีดำของพริกไทยดำ นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ช่วยขับลม แก้ไอ กระตุ้นระบบเผาผลาญ และช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น