พุทราจีน (Jujube)

พุทรา (Ziziphus mauritiana) เป็นผลไม้เมืองร้อนที่อยู่ในวงศ์ Rhamnaceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และแพร่กระจายไปทั่วโลก เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน กรอบ และให้คุณค่าทางโภชนาการสูง พุทรามักถูกเรียกว่า “Apple of the Tropics” เนื่องจากมีรสสัมผัสกรอบคล้ายแอปเปิล นิยมรับประทานสด หรือแปรรูปเป็นพุทราเชื่อม และพุทราอบแห้ง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพุทรา

  • ลำต้น: พุทราเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 5-12 เมตร กิ่งก้านมีหนามแหลม
  • ใบ: ใบรูปไข่หรือรูปรี สีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบหรือหยักเล็กน้อย
  • ดอก: ดอกมีขนาดเล็ก สีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อที่ซอกใบ
  • ผล: ผลทรงกลมหรือรี เปลือกบาง ผิวเรียบหรือขรุขระเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีเนื้อสีขาวถึงครีม เมล็ดแข็งอยู่ภายใน
พุทราจีน (Jujube)

สายพันธุ์พุทราที่นิยมปลูก

  1. พุทรานมสด – ผลใหญ่ ผิวเขียว รสหวานอมเปรี้ยว เนื้อกรอบฉ่ำน้ำ
  2. พุทราจีน – ผลเล็ก ผิวสีน้ำตาลแดง เนื้อแห้ง หวาน เหมาะกับการอบแห้ง
  3. พุทราพันธุ์ไต้หวัน – ผลขนาดกลางถึงใหญ่ ผิวเรียบ รสหวานกรอบ นิยมปลูกในเชิงพาณิชย์
  4. พุทราพันธุ์พื้นเมือง – ผลขนาดเล็ก ผิวขรุขระ รสเปรี้ยวอมหวาน

แหล่งปลูกพุทราสำคัญในประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นแหล่งเพาะปลูกพุทราที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพื้นที่เพาะปลูกหลัก ได้แก่:

  1. จังหวัดราชบุรี – เป็นแหล่งปลูกพุทรานมสดที่สำคัญ มีรสชาติหวาน กรอบ และคุณภาพดี
  2. จังหวัดนครปฐม – มีการปลูกพุทราเชิงพาณิชย์ เน้นสายพันธุ์ไต้หวันและนมสด
  3. จังหวัดสุพรรณบุรี – เป็นอีกหนึ่งแหล่งปลูกพุทราพันธุ์ดี มีรสชาติหวานฉ่ำ
  4. จังหวัดสระบุรี – ปลูกพุทราพื้นเมือง และมีเกษตรกรที่เพาะปลูกพุทราส่งออก
  5. จังหวัดนครราชสีมา – เป็นแหล่งผลิตพุทราคุณภาพสูง มีพื้นที่ปลูกพุทราหลายสายพันธุ์

คุณค่าทางโภชนาการของพุทรา (ต่อ 100 กรัม)

  • พลังงาน: 79 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต: 20 กรัม
  • ใยอาหาร: 0.6 กรัม
  • วิตามินซี: 69 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม: 21 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก: 0.5 มิลลิกรัม

สรรพคุณของพุทรา

  1. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน – วิตามินซีสูงช่วยป้องกันหวัด
  2. บำรุงระบบขับถ่าย – มีใยอาหารช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้
  3. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด – มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
  4. บำรุงกระดูกและฟัน – แคลเซียมและฟอสฟอรัสช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
  5. ช่วยลดความเครียด – มีสารที่ช่วยบรรเทาความเครียดและช่วยให้นอนหลับสบาย

วิธีการปลูกพุทรา

1. การเตรียมพื้นที่ปลูก

  • ควรปลูกในดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี และมีค่า pH ระหว่าง 5.5-6.5
  • พื้นที่ควรได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดวัน

2. การปลูก

  • ใช้ต้นกล้าพุทราที่มีอายุ 1-2 ปี ปลูกในหลุมลึกประมาณ 50 ซม.
  • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 4-6 เมตร เพื่อให้ต้นมีพื้นที่เจริญเติบโต

3. การดูแลรักษา

  • การรดน้ำ: ควรรดน้ำวันละ 1 ครั้งในช่วงแรก และลดการให้น้ำเมื่อเข้าสู่ระยะออกดอก
  • การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ทุก 2-3 เดือน และเสริมปุ๋ยสูตร 8-24-24 ในช่วงติดผล
  • การตัดแต่งกิ่ง: ควรตัดแต่งกิ่งแห้งและกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ออกเป็นประจำ

ช่องทางการตลาดของพุทราในประเทศไทย

  1. ตลาดสดและห้างค้าปลีก – จำหน่ายพุทราสดตามตลาดสดและซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น แม็คโคร เทสโก้โลตัส
  2. การขายออนไลน์ – จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada และ Facebook Marketplace
  3. การส่งออก – พุทราไทยเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ เช่น จีน และเวียดนาม
  4. อุตสาหกรรมแปรรูป – ผลิตเป็นพุทราเชื่อม พุทราอบแห้ง และน้ำพุทรา
  5. การขายตรงจากสวน – เกษตรกรสามารถขายผลผลิตโดยตรงผ่านฟาร์มทัวร์หรือแผงจำหน่ายสินค้าเกษตร

สรุป

พุทราเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สามารถปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ และนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้มากมาย หากคุณกำลังมองหาผลไม้ที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ พุทราเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด!