สุคนธรส (Passiflora quadrangularis L.) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Giant Granadilla” หรือ “Barbadine” หรือที่เรียกกันว่า เสาวรสยักษ์ เป็นพืชตระกูลเดียวกับเสาวรส (Passiflora edulis) แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สุคนธรสเป็นไม้เถาเลื้อยที่มีผลขนาดใหญ่ นิยมปลูกเพื่อใช้เป็นอาหารและสมุนไพรในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเขตร้อนและกึ่งร้อน เช่น อเมริกาใต้ แคริบเบียน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของสุคนธรส
- ลำต้น: เป็นไม้เถาเลื้อย มีลักษณะเป็นเหลี่ยมและมีปีกแคบ มีมือเกาะเพื่อช่วยพยุงตัวในการเลื้อยขึ้นโครงสร้างที่รองรับ
- ใบ: เป็นใบเดี่ยว รูปไข่ถึงรูปใบหอก ขอบใบเรียบ โคนใบสอบหรือหยักเว้า ปลายใบแหลม สีเขียวเข้ม
- ดอก: มีขนาดใหญ่ มีกลิ่นหอมแรง สีขาวอมเขียว มีจุดสีม่วงและแดงที่กลีบดอก ช่วยดึงดูดแมลงเพื่อผสมเกสร
- ผล: มีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร และหนัก 0.5-1.5 กิโลกรัม รูปทรงกระบอกหรือรูปไข่ เปลือกหนา สีเขียวเมื่อยังดิบ และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือส้มเมื่อสุก
- เมล็ด: ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ถูกห่อหุ้มด้วยเยื่อสีเหลืองที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเปรี้ยวอมหวาน
คุณค่าทางโภชนาการของสุคนธรส
สุคนธรสอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยใน สุคนธรส 100 กรัม มีสารอาหารดังนี้:
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 95 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 2.1 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 22.4 กรัม |
ไขมัน | 0.5 กรัม |
ใยอาหาร | 10 กรัม |
วิตามินซี | 28 มิลลิกรัม |
วิตามินเอ | 65 ไมโครกรัม |
โพแทสเซียม | 350 มิลลิกรัม |
ธาตุเหล็ก | 1.5 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 14 มิลลิกรัม |
ประโยชน์ของสุคนธรสต่อสุขภาพ
- ช่วยบำรุงสายตา – วิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องดวงตาและลดความเสี่ยงของโรคตาเสื่อม
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน – วิตามินซีสูงช่วยป้องกันโรคหวัดและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน
- กระตุ้นระบบขับถ่าย – ใยอาหารสูงช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และป้องกันอาการท้องผูก
- บำรุงหัวใจ – โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- ช่วยให้นอนหลับสบาย – มีสารที่ช่วยลดความเครียดและช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
- ควบคุมน้ำหนัก – ใยอาหารสูงช่วยให้อิ่มนานและช่วยควบคุมความหิว
- บำรุงกระดูกและฟัน – มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
การนำสุคนธรสไปใช้ในอาหาร
- รับประทานสด – ผลสุคนธรสสุกสามารถรับประทานสดได้ โดยการคว้านเมล็ดออกและรับประทานเยื่อหุ้มเมล็ด
- น้ำสุคนธรส – คั้นน้ำจากเนื้อเยื่อหุ้มเมล็ด เติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติ
- สมูทตี้และน้ำผลไม้ปั่น – ผสมกับผลไม้อื่น ๆ เช่น มะม่วง สับปะรด หรือกล้วย
- ซอสและน้ำสลัด – ใช้ทำซอสสำหรับราดเนื้อสัตว์หรือสลัดผลไม้
- ขนมและของหวาน – ใช้เป็นส่วนผสมในเค้ก พุดดิ้ง และไอศกรีม
- แยมและเยลลี่ – ใช้ทำแยมเพื่อทาขนมปังหรือทำเยลลี่ผลไม้

การปลูกและดูแลสุคนธรส
1. ฤดูปลูก
- สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ ต้นฤดูฝน (พฤษภาคม-กรกฎาคม)
- อากาศเย็นจะช่วยให้ผลมีรสชาติหวานและมีกลิ่นหอมมากขึ้น
2. การเตรียมดิน
- สุคนธรสชอบดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี และมีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.5-6.5
- ควรขุดหลุมปลูกขนาด 50×50 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุม
3. การดูแลรักษา
- รดน้ำ: ควรรดน้ำเป็นประจำ แต่ไม่ควรให้ดินแฉะเกินไป
- ใส่ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยสูตร 15-15-15 เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
- ทำค้าง: สุคนธรสเป็นพืชเลื้อย จำเป็นต้องทำค้างให้เถาเลื้อยขึ้น
- กำจัดศัตรูพืช: ควรหมั่นตรวจสอบแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยแป้งและหนอนกินใบ
4. การเก็บเกี่ยว
- สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 6-9 เดือนหลังปลูก
- ผลที่สุกพร้อมรับประทานจะมีสีเหลืองทองหรือส้ม และเปลือกเริ่มเหี่ยวเล็กน้อย
สรุป
สุคนธรสเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถนำไปใช้ในเมนูอาหารได้หลากหลาย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา และส่งเสริมการขับถ่าย การปลูกสุคนธรสยังเป็นอาชีพที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีความต้องการในตลาดทั้งในและต่างประเทศ
หากคุณกำลังมองหาผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ สุคนธรสเป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม!