ถั่วแขก (Phaseolus vulgaris) หรือที่เรียกว่า French Bean, Snap Bean, Green Bean เป็นพืชตระกูลถั่วที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เนื่องจาก มีรสชาติอร่อย หวานกรอบ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ถั่วแขกเป็น พืชล้มลุก มีทั้งพันธุ์เถาเลื้อยและพันธุ์ต้นเตี้ย นิยมปลูกเพื่อบริโภคฝักอ่อนที่ยังไม่พัฒนาเป็นเมล็ดเต็มที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารที่มีแคลอรีต่ำแต่มีสารอาหารสูง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของถั่วแขก
- ลำต้น: มีทั้งชนิด พุ่มเตี้ยและเถาเลื้อย
- ใบ: เป็นใบประกอบแบบสามใบย่อย สีเขียวสด
- ดอก: มีสีขาว ชมพู หรือม่วง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
- ฝัก: มีลักษณะเรียวยาว สีเขียว สีเหลือง หรือสีม่วง ฝักอ่อนมีเนื้อกรอบและไม่มีเส้นใยมาก
- เมล็ด: สีขาว น้ำตาล หรือดำ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแขก
ถั่วแขกอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญ ใน ถั่วแขก 100 กรัม มีสารอาหารดังนี้
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 31 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 1.8 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 7 กรัม |
ใยอาหาร | 2.7 กรัม |
วิตามินเอ | 690 IU |
วิตามินซี | 12 มิลลิกรัม |
วิตามินเค | 14.4 ไมโครกรัม |
ธาตุเหล็ก | 1 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 37 มิลลิกรัม |
โพแทสเซียม | 209 มิลลิกรัม |
สรรพคุณและประโยชน์ของถั่วแขก
1. ช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- มี วิตามินซีสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
2. ช่วยบำรุงผิวพรรณและลดริ้วรอย
- อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอและโพลีฟีนอล
3. ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
4. ควบคุมน้ำตาลในเลือด
- มีดัชนีน้ำตาลต่ำ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
5. ช่วยบำรุงสายตา
- วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนในถั่วแขก ช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา
6. บำรุงกระดูกและฟัน
- มี แคลเซียมและวิตามินเคสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
7. กระตุ้นระบบขับถ่าย
- ใยอาหารช่วยให้ ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และป้องกันอาการท้องผูก

การนำถั่วแขกไปใช้ในอาหาร
1. อาหารไทยที่ใช้ถั่วแขก
- ถั่วแขกผัดน้ำมันหอย – เมนูยอดนิยมที่หอมอร่อย
- แกงส้มถั่วแขก – ต้มกับน้ำพริกแกงส้มให้รสชาติเข้มข้น
- ยำถั่วแขก – ผสมกับกุ้งลวกและน้ำยำรสแซ่บ
- ลวกจิ้มน้ำพริก – ทานคู่กับน้ำพริกกะปิหรือน้ำพริกอ่อง
2. อาหารนานาชาติที่ใช้ถั่วแขก
- Green Bean Casserole – อาหารฝรั่งที่อบถั่วแขกกับชีสและครีม
- Stir-Fried French Bean – ผัดถั่วแขกใส่กระเทียมและซีอิ๊วแบบจีน
- Fresh Green Bean Salad – สลัดถั่วแขกผสมกับมะเขือเทศและน้ำสลัดบัลซามิก

วิธีการปลูกและดูแลถั่วแขก
1. การเตรียมดินและพื้นที่ปลูก
- ถั่วแขกเติบโตได้ดีใน ดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี
- ควรปลูกในพื้นที่ที่ มีแสงแดดเต็มวัน
2. การปลูกถั่วแขก
- ใช้วิธี เพาะเมล็ดลงแปลงโดยตรง
- เว้นระยะห่าง 20-30 เซนติเมตร ระหว่างต้น
3. การดูแลรักษา
- รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ให้ดินชุ่มชื้น
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก ทุก 2-3 สัปดาห์
- กำจัดวัชพืช เพื่อป้องกันโรคและแมลง
4. การเก็บเกี่ยว
- ฝักอ่อนสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 45-60 วัน
- ควรเก็บเกี่ยวก่อนที่เมล็ดภายในฝักจะแข็ง
ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วแขก
- ถั่วแขกดิบไม่ควรรับประทาน เพราะอาจมีสารที่ขัดขวางการย่อยโปรตีน ควรนำไปต้ม หรือนึ่งก่อนบริโภค
- ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
สรุป
- ถั่วแขกเป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ
- สามารถนำไปใช้ในอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหารไทยและนานาชาติ
- ช่วยบำรุงหัวใจ กระดูก สายตา และระบบขับถ่าย
- เป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และให้ผลผลิตเร็ว
ถั่วแขกจึงเป็นหนึ่งในผักที่ควรค่าแก่การบริโภคและการปลูกไว้ในสวนครัว เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน!