เคลไดโนเสาร์ (Lacinato Kale) เป็นผักใบเขียวที่อยู่ในตระกูล Brassica oleracea ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับกะหล่ำปลีและบรอกโคลี มีลักษณะใบยาวเรียว สีเขียวเข้ม และมีพื้นผิวขรุขระคล้ายผิวหนังของไดโนเสาร์ จึงได้รับฉายาว่า “เคลไดโนเสาร์” หรือ “Dinosaur Kale” นอกจากนี้ยังเรียกกันว่า “Tuscan Kale” หรือ “Cavolo Nero” ในประเทศอิตาลี ผักชนิดนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักสุขภาพ เนื่องจากมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica oleracea var. Lacinato
  • วงศ์: Brassicaceae
  • ลำต้น: ตั้งตรง แข็งแรง สามารถเติบโตได้สูงถึง 2 เมตร
  • ใบ: ยาว เรียว สีเขียวเข้ม มีลักษณะขรุขระและเป็นคลื่นเล็กน้อย
  • ดอก: สีเหลือง ออกเป็นช่อในช่วงปลายอายุการเติบโต
  • รสชาติ: ขมน้อยกว่าเคลใบหยิก มีรสชาติที่นุ่มนวลกว่า

คุณค่าทางโภชนาการ (ต่อ 100 กรัม)

  • พลังงาน: 50 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต: 8.8 กรัม
  • โปรตีน: 4.3 กรัม
  • ไขมัน: 0.9 กรัม
  • ใยอาหาร: 3.6 กรัม
  • วิตามินเอ: 10300 IU (ช่วยบำรุงสายตาและผิวหนัง)
  • วิตามินซี: 120 มิลลิกรัม (เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน)
  • วิตามินเค: 817 ไมโครกรัม (ช่วยบำรุงกระดูกและระบบไหลเวียนโลหิต)
  • แคลเซียม: 150 มิลลิกรัม (ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน)
  • ธาตุเหล็ก: 1.5 มิลลิกรัม (ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง)

ประโยชน์และสรรพคุณทางยา

  1. ช่วยบำรุงสายตา – เบต้าแคโรทีนในเคลช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
  2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน – วิตามินซีสูงช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง – มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีนและเควอซิทิน ที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  4. ช่วยบำรุงกระดูก – แคลเซียมและวิตามินเคช่วยให้กระดูกแข็งแรง
  5. ช่วยลดความดันโลหิต – โพแทสเซียมในเคลช่วยควบคุมความดันโลหิต
  6. ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย – มีไฟเบอร์สูงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
  7. ช่วยควบคุมน้ำหนัก – แคลอรี่ต่ำ ไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มนานขึ้น

การใช้เคลไดโนเสาร์ในอาหาร

  • สลัด – หั่นใบเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมกับน้ำสลัดหรือน้ำมันมะกอก
  • ซุป – ใส่ในซุปเพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
  • สมูทตี้ – ปั่นกับกล้วย แอปเปิล และน้ำมะนาว
  • เคลอบกรอบ – อบในเตาอบด้วยน้ำมันมะกอกและเกลือเพื่อทำเป็นของว่าง
  • ผัด – นำไปผัดกับกระเทียมและน้ำมันมะกอก

วิธีปลูกและดูแลเคลไดโนเสาร์

  1. การเลือกดิน – ควรใช้ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำดี มีค่า pH ประมาณ 6.0-7.5
  2. แสงแดด – ต้องการแสงแดดวันละ 6-8 ชั่วโมง
  3. การรดน้ำ – รดน้ำวันละครั้ง แต่ต้องระวังไม่ให้ดินแฉะเกินไป
  4. การใส่ปุ๋ย – ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยมูลไส้เดือน หรือปุ๋ยคอก
  5. การเก็บเกี่ยว – เริ่มเก็บใบได้เมื่ออายุประมาณ 50-70 วัน โดยเก็บใบจากล่างขึ้นบน

การเก็บรักษาเคลไดโนเสาร์

  • เก็บในตู้เย็น – ใส่ในถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ และเก็บในช่องผักได้นาน 5-7 วัน
  • แช่แข็ง – ลวกในน้ำเดือด 2 นาที แล้วนำไปแช่แข็งเพื่อเก็บไว้ใช้ได้นานขึ้น
  • อบแห้ง – ทำเป็นเคลอบกรอบและเก็บในภาชนะปิดสนิท

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรรับประทานดิบมากเกินไป – เนื่องจากมีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • ควรล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน – เพื่อลดสารเคมีตกค้าง
  • ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดควรระวัง – วิตามินเคสูงอาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

สรุป

เคลไดโนเสาร์ (Lacinato Kale) เป็นผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีรสชาติอร่อย ขมน้อยกว่าพันธุ์อื่น และสามารถนำไปใช้ในเมนูอาหารต่าง ๆ ได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้ง่าย และมีอายุการเก็บเกี่ยวที่รวดเร็ว ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผักเพื่อสุขภาพ การบริโภคเคลไดโนเสาร์อย่างเหมาะสมจะช่วยส่งเสริมสุขภาพและทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น