พริกหวานสีเหลือง (Yellow Bell Pepper)

พริกหวานสีเหลืองคืออะไร?

พริกหวานสีเหลือง (Yellow Bell Pepper) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของพริกหวาน (Capsicum annuum) ซึ่งเป็นผักที่มีสีสันสดใส รสหวาน และไม่มีความเผ็ดเหมือนพริกชนิดอื่น ๆ พริกหวานสีเหลืองมีลักษณะเนื้อหนา ฉ่ำ และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก

ลักษณะของพริกหวานสีเหลือง

  • ขนาดและรูปร่าง: มีลักษณะเป็นทรงกระดิ่งหรือพริกระฆัง ผลใหญ่และเนื้อหนา
  • สี: เริ่มต้นจากสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใสเมื่อสุก
  • รสชาติ: มีรสหวานอ่อน ๆ ไม่เผ็ด ทำให้รับประทานง่าย
  • กลิ่น: มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เหมาะสำหรับการทำอาหารหลากหลายประเภท
พริกหวานสีเหลือง (Yellow Bell Pepper)
พริกหวานสีเหลือง (Yellow Bell Pepper)

คุณค่าทางโภชนาการของพริกหวานสีเหลือง

พริกหวานสีเหลืองเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยในปริมาณ 100 กรัม ประกอบไปด้วย:

  • พลังงาน: 31 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต: 6.65 กรัม
  • โปรตีน: 0.9 กรัม
  • ไขมัน: 0.13 กรัม
  • โพแทสเซียม: 213 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี: 142 มิลลิกรัม (สูงกว่าส้ม)
  • ฟอสฟอรัส: 27 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม: 11 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม: 6 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของพริกหวานสีเหลืองต่อสุขภาพ

  1. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน – มีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันโรคหวัดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  2. บำรุงสายตา – อุดมไปด้วยลูทีนและเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจก
  3. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด – มีโพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  4. ต้านอนุมูลอิสระ – มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งและชะลอวัย
  5. ช่วยในการย่อยอาหาร – มีเส้นใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก
  6. ช่วยลดน้ำหนัก – มีแคลอรีต่ำและเส้นใยสูง ทำให้อิ่มท้องนานและช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

การนำพริกหวานสีเหลืองไปใช้ในอาหาร

พริกหวานสีเหลืองสามารถนำไปใช้ในเมนูต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารตะวันตก อาหารไทย หรืออาหารจีน เช่น:

  • สลัดผัก – ใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติ
  • ผัดผักรวม – ใช้ร่วมกับผักอื่น ๆ เช่น บรอกโคลี และแครอท
  • พริกหวานยัดไส้ – ยัดไส้ด้วยเนื้อสัตว์ ข้าว หรือชีส แล้วนำไปอบ
  • ซุปและสตูว์ – ใช้ในซุปหรือสตูว์เพื่อเพิ่มรสชาติหวานธรรมชาติ
  • ย่างหรืออบ – ย่างพริกหวานเพื่อเพิ่มรสชาติและนำไปประกอบอาหารจานหลัก

วิธีปลูกพริกหวานสีเหลืองในไทย

  1. เลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม – สามารถเลือกเมล็ดพันธุ์ลูกผสมหรือพันธุ์แท้
  2. การเตรียมดิน – ใช้ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี
  3. แสงแดด – ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแดดจัดวันละ 6-8 ชั่วโมง
  4. การรดน้ำ – ควรรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง แต่ไม่ควรให้ดินแฉะเกินไป
  5. การใส่ปุ๋ย – ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยสูตรที่มีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง
  6. การเก็บเกี่ยว – ใช้เวลาประมาณ 60-90 วันหลังปลูก

พื้นที่ที่นิยมปลูกพริกหวานสีเหลืองในไทย

พริกหวานสีเหลืองมักนิยมปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น เช่น:

  • ภาคเหนือ: เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน
  • โครงการหลวง: ส่งเสริมการปลูกพริกหวานในพื้นที่สูงเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร
  • พื้นที่ที่มีโรงเรือนควบคุมสภาพอากาศ: เช่น ฟาร์มระบบไฮโดรโปนิกส์ในจังหวัดนครราชสีมาและเพชรบูรณ์

การหาซื้อพริกหวานสีเหลืองในไทย

  • ตลาดสดทั่วไป – เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง
  • ซูเปอร์มาร์เก็ต – เช่น Big C, Makro, Villa Market, Gourmet Market
  • ร้านค้าออนไลน์ – เช่น Shopee, Lazada (พริกสดและเมล็ดพันธุ์พริกหวาน)

สรุป

พริกหวานสีเหลืองเป็นผักที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งในแง่ของโภชนาการและการนำไปใช้ในอาหาร ด้วยสีสันที่สดใสและรสชาติที่อร่อย พริกหวานสีเหลืองจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพ สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในระบบไฮโดรโปนิกส์ หากต้องการเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับเมนูประจำวัน พริกหวานสีเหลืองคือหนึ่งในวัตถุดิบที่ไม่ควรพลาด!

แหล่งปลูกพริกหวานจะอยู่ในโซนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดน่าน โดยได้รับการสนุบสนุนจากทางโครงการหลวง ในการปลูกพืชบนที่สูงทางภาคเหนือ