ถั่วพูสีม่วง (Purple Winged Bean)

ถั่วพู (Psophocarpus tetragonolobus) หรือ Winged Bean เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีลักษณะเด่นคือ ฝักมีสี่ปีกยื่นออกมา นิยมปลูกและบริโภคในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย

ถั่วพูเป็นพืชที่กินได้เกือบทุกส่วน ตั้งแต่ ฝักอ่อน ยอดอ่อน ดอก เมล็ด และรากใต้ดิน ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของถั่วพู

  • ลำต้น: เป็นเถาเลื้อย สามารถยาวได้ถึง 3-4 เมตร
  • ใบ: เป็นใบประกอบแบบสามใบย่อย รูปไข่หรือรูปหัวใจ
  • ดอก: มีสีขาวหรือม่วงอ่อน ออกเป็นช่อคล้ายดอกถั่วทั่วไป
  • ฝัก: มีลักษณะ แบนยาว สี่ปีก ความยาวประมาณ 15-22 เซนติเมตร
  • เมล็ด: มีสีขาว ครีม หรือน้ำตาล ลักษณะคล้ายถั่วเหลือง
  • รากใต้ดิน: มีหัวสะสมอาหาร สามารถนำมาต้มกินได้

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วพู

ถั่วพูอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะ โปรตีน ใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ใน ถั่วพู 100 กรัม มีสารอาหารดังนี้

สารอาหารปริมาณ
พลังงาน49 กิโลแคลอรี
โปรตีน6.8 กรัม
คาร์โบไฮเดรต8.3 กรัม
ใยอาหาร2.6 กรัม
วิตามินซี45 มิลลิกรัม
วิตามินเอ80 ไมโครกรัม
แคลเซียม62 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก1.5 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม240 มิลลิกรัม

สรรพคุณและประโยชน์ของถั่วพู

1. แหล่งโปรตีนจากพืช

  • มีปริมาณโปรตีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ

2. ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

  • อุดมไปด้วย แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม

3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

  • วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วย ป้องกันโรคหวัดและเพิ่มภูมิคุ้มกัน

4. บำรุงสายตาและผิวพรรณ

  • วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนช่วย ลดความเสื่อมของดวงตาและบำรุงผิวพรรณ

5. ช่วยระบบย่อยอาหาร

  • ใยอาหารในถั่วพูช่วย ป้องกันอาการท้องผูกและกระตุ้นการทำงานของลำไส้

6. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง

  • มีโพแทสเซียมช่วย ควบคุมความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล

การนำถั่วพูไปใช้ในอาหาร

1. อาหารไทยที่ใช้ถั่วพู

  • ยำถั่วพู – ใส่กุ้งลวกและน้ำพริกเผา เพิ่มรสชาติ
  • น้ำพริกถั่วพู – กินคู่กับผักลวกและปลาย่าง
  • แกงส้มถั่วพู – ทำให้รสชาติของแกงเข้มข้นขึ้น
  • ผัดถั่วพูกับหมูสับ – อาหารจานด่วนที่ทำง่าย

2. อาหารนานาชาติที่ใช้ถั่วพู

  • Salad Winged Bean – สลัดถั่วพูแบบฟิลิปปินส์
  • Stir-Fried Winged Bean with Garlic – ผัดถั่วพูใส่กระเทียมสไตล์จีน
  • Winged Bean Curry – แกงถั่วพูแบบอินเดีย

3. การแปรรูปถั่วพู

  • เมล็ดถั่วพูคั่ว – ใช้แทนถั่วเหลือง หรือบดเป็นแป้งทำขนม
  • หัวใต้ดินของถั่วพู – ใช้ต้ม เผา หรือเชื่อมเป็นของหวาน
  • น้ำมันจากเมล็ดถั่วพู – ใช้ทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

วิธีการปลูกและดูแลถั่วพู

1. การเตรียมดินและพื้นที่ปลูก

  • ควรปลูกใน ดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี
  • ถั่วพูต้องการ แสงแดดเต็มวัน

2. การปลูกถั่วพู

  • ใช้วิธี เพาะเมล็ดโดยตรงลงดิน
  • เว้นระยะห่างต้นละ 50-60 เซนติเมตร

3. การดูแลรักษา

  • รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ให้ดินมีความชุ่มชื้น
  • ทำค้างให้เถาเลื้อย เพื่อช่วยให้ต้นเติบโตแข็งแรง
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก ทุก 2-3 สัปดาห์

4. การเก็บเกี่ยว

  • ฝักอ่อนเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 60-80 วัน
  • เมล็ดแก่ใช้ทำอาหารได้เมื่ออายุ 90-120 วัน

ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วพู

  • ควรปรุงสุกก่อนรับประทาน เพราะถั่วพูดิบมีสารต้านทานเอนไซม์โปรตีเอส ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย
  • ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • ผู้ที่มีอาการแพ้พืชตระกูลถั่วควรระวัง

สรุป

  • ถั่วพูเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
  • สามารถบริโภคได้เกือบทุกส่วน ทั้งฝักอ่อน ยอดอ่อน เมล็ด และราก
  • ช่วยบำรุงกระดูก เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยระบบย่อยอาหาร
  • เป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และให้ผลผลิตต่อเนื่อง

ถั่วพูจึงเป็นพืชผักที่ควรค่าแก่การปลูกและบริโภค ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก!