ถั่วพูสีม่วง (Purple Winged Bean)

ถั่วพูสีม่วง (Purple Winged Bean) เป็นสายพันธุ์หนึ่งของถั่วพู (Psophocarpus tetragonolobus) ที่มีลักษณะเด่นคือ ฝักสีม่วงสดใส ซึ่งแตกต่างจากถั่วพูทั่วไปที่มีฝักสีเขียว นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ถั่วพูสีม่วงยังอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

ถั่วพูสีม่วงเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ง่าย เจริญเติบโตเร็ว และให้ผลผลิตต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการบริโภคในครัวเรือนหรือการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของถั่วพูสีม่วง

  • ลำต้น: เป็นเถาเลื้อย สามารถยาวได้ถึง 3-4 เมตร
  • ใบ: เป็นใบประกอบสามใบย่อย สีเขียวสด มีขอบเรียบ
  • ดอก: มีสีม่วงอ่อนถึงม่วงเข้ม ขึ้นเป็นช่อคล้ายดอกถั่วทั่วไป
  • ฝัก: มีลักษณะเป็นแฉกสี่ปีก สีม่วงเข้ม ขนาดยาวประมาณ 15-22 เซนติเมตร
  • เมล็ด: มีขนาดเล็ก กลม สีครีม น้ำตาล หรือดำ
  • รากใต้ดิน: มีหัวขนาดเล็ก สามารถนำมาต้มกินได้
ถั่วพูสีม่วง (Purple Winged Bean)

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วพูสีม่วง

ถั่วพูสีม่วงมีคุณค่าทางโภชนาการคล้ายกับถั่วพูเขียว แต่มีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) สูงกว่า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในพืชสีม่วง

สารอาหารปริมาณต่อ 100 กรัม
พลังงาน49 กิโลแคลอรี
โปรตีน6.8 กรัม
คาร์โบไฮเดรต8.3 กรัม
ใยอาหาร2.6 กรัม
วิตามินซี45 มิลลิกรัม
วิตามินเอ80 ไมโครกรัม
แคลเซียม62 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก1.5 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม240 มิลลิกรัม
สารแอนโธไซยานินสูงกว่าในถั่วพูเขียว

สรรพคุณและประโยชน์ของถั่วพูสีม่วง

1. แหล่งโปรตีนจากพืช

  • มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ

2. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

  • แอนโธไซยานินในฝักสีม่วง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

3. ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ

  • วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนช่วย ลดความเสื่อมของดวงตา และช่วยให้ผิวพรรณสดใส

4. บำรุงกระดูกและฟัน

  • มีแคลเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

5. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

  • สารต้านอนุมูลอิสระช่วย ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

6. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด

  • ใยอาหารสูงช่วย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยป้องกันโรคเบาหวาน

การนำถั่วพูสีม่วงไปใช้ในอาหาร

1. อาหารไทยที่ใช้ถั่วพูสีม่วง

  • ยำถั่วพูสีม่วง – ใส่กุ้งลวกและน้ำพริกเผา เพิ่มรสชาติ
  • แกงส้มถั่วพูสีม่วง – รสชาติเข้มข้น อร่อย
  • ผัดถั่วพูสีม่วงกับหมูสับ – ผัดกับกระเทียมเพิ่มความหอม
  • น้ำพริกถั่วพูสีม่วง – ทานคู่กับผักสดและข้าว

2. อาหารนานาชาติที่ใช้ถั่วพูสีม่วง

  • Stir-Fried Purple Winged Bean – ผัดสไตล์จีน เพิ่มกระเทียมและซอสถั่วเหลือง
  • Purple Winged Bean Salad – สลัดถั่วพูสีม่วงแบบฟิลิปปินส์
  • Winged Bean Soup – ซุปถั่วพูใส่เนื้อไก่หรือหมู

3. การแปรรูปถั่วพูสีม่วง

  • เมล็ดถั่วพูสีม่วงคั่ว – ใช้แทนถั่วเหลือง หรือบดเป็นแป้งทำขนม
  • หัวใต้ดินของถั่วพูสีม่วง – นำมาต้ม เผา หรือเชื่อมเป็นของหวาน

วิธีการปลูกและดูแลถั่วพูสีม่วง

1. การเตรียมดินและพื้นที่ปลูก

  • ควรปลูกใน ดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำดี
  • ถั่วพูต้องการ แสงแดดเต็มวัน

2. การปลูกถั่วพูสีม่วง

  • ใช้วิธี เพาะเมล็ดโดยตรงลงดิน
  • เว้นระยะห่างต้นละ 50-60 เซนติเมตร

3. การดูแลรักษา

  • รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ให้ดินมีความชุ่มชื้น
  • ทำค้างให้เถาเลื้อย เพื่อช่วยให้ต้นเติบโตแข็งแรง
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก ทุก 2-3 สัปดาห์

4. การเก็บเกี่ยว

  • ฝักอ่อนเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 60-80 วัน
  • เมล็ดแก่ใช้ทำอาหารได้เมื่ออายุ 90-120 วัน

ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วพูสีม่วง

  • ควรปรุงสุกก่อนรับประทาน เพราะถั่วพูดิบมีสารที่ยับยั้งการย่อยโปรตีน
  • ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • ผู้ที่แพ้พืชตระกูลถั่วควรบริโภคอย่างระมัดระวัง

สรุป

  • ถั่วพูสีม่วงเป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ
  • มีลักษณะเด่นที่ฝักสีม่วงเข้ม ซึ่งมีแอนโธไซยานินสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
  • สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ
  • เป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และให้ผลผลิตต่อเนื่อง

ถั่วพูสีม่วงจึงเป็นพืชที่ควรค่าแก่การปลูกและบริโภค เพราะไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย!