ถั่วแปบสีม่วง (Purple Hyacinth Bean, Lablab purpureus) เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีลักษณะเด่นคือ ฝักสีม่วงเข้ม และเถาเลื้อยที่สามารถเติบโตได้รวดเร็ว จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับสำหรับทำซุ้มเถาวัลย์ นอกจากนั้นยังสามารถนำส่วนต่างๆ ของต้นมาใช้เป็นอาหารได้ เช่น ฝักอ่อน ยอดอ่อน ดอก และเมล็ด
ถั่วแปบสีม่วงได้รับความนิยมในหลายประเทศทั้งในเอเชียและแอฟริกา เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเหมาะสำหรับการบริโภคเพื่อสุขภาพ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของถั่วแปบสีม่วง
- ลำต้น: เป็นเถาเลื้อย สามารถยาวได้ถึง 3-6 เมตร
- ใบ: เป็นใบประกอบแบบสามใบย่อย รูปไข่เบี้ยว ขอบใบเรียบหรือหยักเล็กน้อย
- ดอก: ออกเป็นช่อกระจะ มี สีม่วงสด หรือม่วงอมชมพู
- ฝัก: แบน ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร สีม่วงเข้มเป็นมันเงา
- เมล็ด: กลมรี สีน้ำตาลดำ มีจุดสีขาวตรงกลาง
คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแปบสีม่วง
ถั่วแปบสีม่วงมีโปรตีนสูง และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงสุขภาพ ใน ถั่วแปบสีม่วง 100 กรัม มีสารอาหารดังนี้
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 40-50 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 5-7 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 8-12 กรัม |
ใยอาหาร | 2-3 กรัม |
วิตามินเอ | 30 ไมโครกรัม |
วิตามินซี | 15 มิลลิกรัม |
ธาตุเหล็ก | 1.2 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 50-60 มิลลิกรัม |
สรรพคุณและประโยชน์ของถั่วแปบสีม่วง
1. เป็นแหล่งโปรตีนจากพืช
- มี โปรตีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ
2. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- สีม่วงของฝักถั่วแปบเกิดจาก สารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและชะลอวัย
3. ช่วยบำรุงสายตา
- มี วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
4. เสริมสร้างกระดูกและฟัน
- แคลเซียมและฟอสฟอรัสในถั่วแปบสีม่วงช่วย บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
5. ควบคุมน้ำตาลในเลือด
- ใยอาหารสูงช่วย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
6. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
- ใยอาหารในฝักช่วย กระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
การนำถั่วแปบสีม่วงไปใช้ในอาหาร
1. อาหารไทยที่ใช้ถั่วแปบสีม่วง
- ยำถั่วแปบสีม่วง – คลุกเคล้ากับน้ำพริกเผา และกุ้งลวก
- ผัดถั่วแปบสีม่วงกับไข่ – ผัดกับกระเทียมและไข่เพิ่มรสชาติ
- แกงส้มถั่วแปบสีม่วง – รสชาติเข้มข้น อร่อย
- ขนมถั่วแปบสีม่วง – ใช้แป้งที่ทำจากถั่วแปบสีม่วงเพื่อเพิ่มสีสัน
2. อาหารนานาชาติที่ใช้ถั่วแปบสีม่วง
- Stir-Fried Purple Hyacinth Bean – ผัดถั่วแปบสีม่วงสไตล์จีน
- Purple Hyacinth Bean Salad – สลัดถั่วแปบสีม่วงแบบฟิลิปปินส์
- Lablab Bean Soup – ซุปถั่วแปบใส่เนื้อสัตว์หรือเต้าหู้
วิธีการปลูกและดูแลถั่วแปบสีม่วง
1. การเตรียมดินและพื้นที่ปลูก
- ต้องการดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี
- ต้องการแสงแดดเต็มวัน วันละ 6-8 ชั่วโมง
2. การปลูกถั่วแปบสีม่วง
- ใช้วิธี เพาะเมล็ดลงดินโดยตรง หรือ เพาะต้นกล้าแล้วนำไปปลูก
- ควรมีค้างไม้หรือโครงเหล็กให้ต้นเลื้อย
3. การดูแลรักษา
- รดน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรให้น้ำขัง
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก ทุก 2-3 สัปดาห์
4. การเก็บเกี่ยว
- ฝักอ่อนสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 60-80 วัน
- เมล็ดแก่ใช้ทำอาหารได้เมื่ออายุ 90-120 วัน
ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วแปบสีม่วง
- เมล็ดแห้งไม่ควรรับประทานดิบ เนื่องจากมีสารไซยาโนจีนิกไกลโคไซด์ (Cyanogenic Glycoside) ซึ่งอาจเป็นพิษต่อร่างกาย ต้องนำไปต้มให้สุกก่อน
- ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
สรุป
- ถั่วแปบสีม่วงเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้โปรตีน วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ
- สามารถบริโภคได้ทั้งฝักอ่อน ยอดอ่อน ดอก และเมล็ด
- ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างกระดูก และควบคุมน้ำตาลในเลือด
- เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว และสามารถใช้เป็นไม้ประดับในสวนได้
ถั่วแปบสีม่วงจึงเป็นหนึ่งในพืชผักที่เหมาะสำหรับการบริโภคเพื่อสุขภาพ และยังเพิ่มสีสันให้กับสวนหรือซุ้มไม้เลื้อยในบ้านอีกด้วย!