ตำลึง หรือชื่อภาษาอังกฤษ Ivy Gourd มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coccinia grandis เป็นพืชเถาเลื้อยที่อยู่ในวงศ์ Cucurbitaceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับแตงกวาและบวบ พบได้ทั่วไปในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงอินเดียและแอฟริกา ตำลึงเป็นพืชที่เติบโตได้ง่าย และได้รับความนิยมในการนำมาบริโภคและใช้เป็นสมุนไพร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของตำลึง
- ลำต้น: เถาเลื้อย สามารถยึดเกาะกับต้นไม้อื่นหรือรั้วบ้านได้
- ใบ: รูปหัวใจ ขอบใบหยักลึก สีเขียวสด
- ดอก: สีขาว มีลักษณะคล้ายดอกฟักทอง
- ผล: รูปไข่หรือทรงรี สีเขียวมีลายขาว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
- เมล็ด: อยู่ภายในผล มีลักษณะคล้ายแตงกวา

คุณค่าทางโภชนาการของตำลึง
ตำลึงเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ:
- วิตามิน A: ช่วยบำรุงสายตา
- วิตามิน C: เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ
- แคลเซียม: บำรุงกระดูกและฟัน
- ธาตุเหล็ก: ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
- ใยอาหาร: ช่วยระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก
สรรพคุณทางยาและประโยชน์ต่อสุขภาพ
1. บำรุงสายตา
ตำลึงมีวิตามิน A สูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันภาวะตาแห้งและลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับดวงตา
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
วิตามิน C ในตำลึงช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นจากไข้หวัด
3. ควบคุมน้ำตาลในเลือด
มีการศึกษาพบว่าตำลึงสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการควบคุมน้ำตาล
4. บำรุงกระดูกและฟัน
แคลเซียมและฟอสฟอรัสในตำลึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
5. ลดการอักเสบของผิวหนัง
น้ำคั้นจากใบตำลึงสามารถใช้บรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย หรือใช้พอกแผลเพื่อลดอาการอักเสบได้
6. ช่วยระบบขับถ่าย
ตำลึงมีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ทำให้ขับถ่ายสะดวก ลดอาการท้องอืดและท้องผูก

การนำตำลึงไปประกอบอาหาร
ตำลึงสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น:
1. แกงจืดตำลึงหมูสับ
เมนูยอดนิยมที่มีรสชาติอ่อนโยน ใช้ใบตำลึงและยอดอ่อนต้มกับหมูสับและเต้าหู้ ได้ซุปรสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับทุกวัย
2. ผัดตำลึงไฟแดง
เมนูง่าย ๆ ที่ทำได้รวดเร็ว ใช้ใบตำลึงผัดกับกระเทียมและน้ำมันหอย ปรุงรสให้อร่อย รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ
3. ไข่เจียวตำลึง
นำใบตำลึงมาสับแล้วผสมกับไข่ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและพริกไทย ก่อนนำไปทอดให้เหลืองกรอบ เป็นเมนูที่ทำง่ายและอร่อย
4. ตำลึงลวกจิ้มน้ำพริก
สามารถนำใบตำลึงไปลวกให้สุก แล้วทานคู่กับน้ำพริก เช่น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า หรือแจ่ว
5. ซุปตำลึงไก่ฉีก
เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับทุกวัย ต้มซุปใส่ไก่ฉีกและใบตำลึงให้รสชาติอ่อนโยน
6. ตำลึงทอดกรอบ
ใบตำลึงสามารถนำไปชุบแป้งทอดจนกรอบ ทานเป็นของว่าง หรือจิ้มกับซอสพริกเพื่อเพิ่มรสชาติ
เคล็ดลับการปลูกและดูแลตำลึง
- การปลูก: ตำลึงสามารถปลูกได้โดยใช้เมล็ดหรือปักชำจากต้นแก่ เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยและมีแสงแดดเพียงพอ
- การดูแล: ควรรดน้ำเป็นประจำและใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้ดิน
- การเก็บเกี่ยว: เลือกเก็บยอดอ่อนและใบที่ยังไม่แก่เกินไป เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยและคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด
ตำลึงในตำรับยาแผนไทย
ตำลึงถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรในทางการแพทย์แผนไทย เช่น:
- รักษาอาการคันและผื่นแพ้: ใช้ใบตำลึงสดตำพอกบริเวณที่คันหรือแมลงกัดต่อย
- แก้ร้อนใน: ดื่มน้ำคั้นจากใบตำลึงช่วยลดอาการร้อนใน
- ลดไข้: ใช้ตำลึงต้มกับน้ำดื่มเพื่อลดไข้
- บรรเทาอาการไอ: ใช้รากตำลึงฝนกับน้ำดื่มเพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ
สรุป
ตำลึง (Ivy Gourd) เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านโภชนาการและการรักษาโรค นอกจากจะมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย จึงเป็นพืชที่ควรมีติดบ้านเพื่อใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
การบริโภคตำลึงเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สำคัญ รวมถึงช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ ตำลึงจึงเป็นสมุนไพรที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และนำมาใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน