มันสำปะหลัง (Cassava)

มันสำปะหลัง (Manihot esculenta) เป็นพืชหัวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและโภชนาการ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ และแพร่กระจายไปยังเขตร้อนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกมันสำปะหลังรายใหญ่ของโลก หัวมันสำปะหลังเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งในด้านอาหารและอุตสาหกรรม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

  • ลำต้น: ไม้พุ่มสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลือกสีน้ำตาลหรือเขียว มีร่องตื้นตามแนวยาว
  • ใบ: ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปฝ่ามือ แฉก 3-7 แฉก ปลายใบแหลม ก้านใบยาว
  • ดอก: ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกตัวเมียอยู่โคนช่อ ดอกตัวผู้อยู่ปลายช่อ
  • ผล: เป็นผลแห้งรูปทรงกลม มีสัน 6 สัน ภายในมีเมล็ด 3 เมล็ด
  • รากและหัวใต้ดิน: รากสะสมอาหารเจริญเป็นหัวใต้ดิน เปลือกสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน
มันสำปะหลัง (Cassava)

สายพันธุ์มันสำปะหลัง

มันสำปะหลังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

  1. พันธุ์หวาน – มีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิกต่ำ สามารถบริโภคโดยตรงหลังปรุงสุก
  2. พันธุ์ขม – มีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิกสูง ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปก่อนบริโภค

ฤดูการปลูกและการเก็บเกี่ยว

  • ฤดูปลูก: สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่จะเติบโตได้ดีในช่วงต้นฤดูฝน (พฤษภาคม-มิถุนายน)
  • ระยะเวลาในการเติบโต: ใช้เวลาประมาณ 8-12 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว
  • การเก็บเกี่ยว: เมื่อใบเริ่มร่วงและลำต้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สามารถขุดหัวมันขึ้นมาได้

คุณค่าทางโภชนาการ

ในปริมาณ 100 กรัม มันสำปะหลังประกอบด้วย:

  • พลังงาน: 160 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต: 38 กรัม
  • โปรตีน: 1.3 กรัม
  • ไขมัน: 0.3 กรัม
  • ใยอาหาร: 1.8 กรัม
  • แคลเซียม: 16 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก: 0.3 มิลลิกรัม
มันสำปะหลัง (Cassava)

ประโยชน์และการใช้ประโยชน์

1. ในอุตสาหกรรมอาหาร

  • ผลิตแป้งมันสำปะหลัง ใช้ในขนม เบเกอรี่ และอาหารแปรรูป
  • ผลิตวุ้นเส้นและก๋วยเตี๋ยว
  • ใช้ทำอาหารแปรรูป เช่น ขนมขบเคี้ยว

2. ในอุตสาหกรรมการเกษตรและพลังงาน

  • ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์
  • ใช้ผลิตเอทานอลเพื่อเป็นพลังงานทดแทน
  • ใช้ทำกาว กระดาษ และสิ่งทอ
มันสำปะหลัง (Cassava)

วิธีการแปรรูปมันสำปะหลัง

  1. การทำแป้งมันสำปะหลัง
    • นำหัวมันมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด และบดละเอียด
    • กรองเอาเนื้อแป้งออกจากเส้นใย
    • ตากแป้งให้แห้งและบดเป็นผง
  2. การทำมันสำปะหลังต้ม
    • ปอกเปลือกมันสำปะหลังและหั่นเป็นชิ้น
    • ต้มในน้ำเดือดจนเนื้อนิ่ม รับประทานได้

ข้อควรระวังในการบริโภค

  • สารไซยาไนด์ – มันสำปะหลังดิบมีสารไกลโคไซด์ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ได้ ควรปรุงสุกก่อนรับประทาน
  • การรับประทานมากเกินไป – อาจทำให้เกิดภาวะท้องอืดและปัญหาทางเดินอาหาร

สรุป

มันสำปะหลังเป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและโภชนาการ นิยมใช้เป็นอาหารแปรรูป และเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การบริโภคมันสำปะหลังอย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากพืชชนิดนี้