ผักชีฝรั่ง (Eryngium foetidum) หรือ Culantro เป็นพืชสมุนไพรที่มีใบเรียวยาว ขอบใบหยัก มีกลิ่นหอมแรง นิยมใช้ในอาหารไทยและอาหารนานาชาติ เช่น เวียดนาม เม็กซิโก และแคริบเบียน
แม้ว่าชื่อ “ผักชีฝรั่ง” จะทำให้หลายคนสับสนกับ ผักชี (Coriander) หรือ พาสลีย์ (Parsley) แต่ในความเป็นจริง Culantro เป็นพืชที่แตกต่างออกไป ทั้งในด้านลักษณะทางพฤกษศาสตร์และกลิ่นหอมเฉพาะตัว ผักชีฝรั่งมีชื่อพื้นเมืองอื่นดังนี้ ผักชีดอย (เหนือ, เชียงใหม่) มะและเด๊าะ (กะเหรี่ยง, แม่ฮ่องสอน) หอมป้อมกุลา (เหนือ) ผักหอมเป (อีสาน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของผักชีฝรั่ง
- ลำต้น: เป็นพืชล้มลุก อายุประมาณ 6-12 เดือน
- ใบ: ใบเรียวยาว ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม
- ดอก: ออกเป็นช่อ สีเขียวอมม่วง มีลักษณะแหลมคล้ายหนาม
- ราก: เป็นระบบรากแก้ว มีความแข็งแรง สามารถดูดซับสารอาหารจากดินได้ดี
- กลิ่น: มีความหอมแรงกว่าผักชีทั่วไป
ที่มาของผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่งมีถิ่นกำเนิดใน อเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยเฉพาะใน เม็กซิโก คิวบา และหมู่เกาะแคริบเบียน ต่อมาถูกนำเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย ลาว และเวียดนาม
ชื่อเรียกในแต่ละประเทศ
- ไทย → ผักชีฝรั่ง
- อังกฤษ → Culantro, Sawtooth Herb, Mexican Coriander
- เวียดนาม → Ngò gai
- ฟิลิปปินส์ → Kulantro
- แคริบเบียน → Chadon Beni
คุณค่าทางโภชนาการของผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยใน ผักชีฝรั่ง 100 กรัม มีสารอาหารดังนี้
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน | 23 กิโลแคลอรี |
คาร์โบไฮเดรต | 2.8 กรัม |
ใยอาหาร | 2.1 กรัม |
โปรตีน | 2.0 กรัม |
วิตามินซี | 45 มิลลิกรัม |
วิตามินเอ | 6500 IU |
ธาตุเหล็ก | 1.9 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 276 มิลลิกรัม |
สรรพคุณและประโยชน์ของผักชีฝรั่ง
1. ช่วยบำรุงสุขภาพและต้านอนุมูลอิสระ
- ผักชีฝรั่งมี วิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
2. ช่วยลดความดันโลหิต
- มีโพแทสเซียมสูง ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
3. บรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ
- ใบและรากของผักชีฝรั่งถูกใช้ใน การแพทย์แผนโบราณ เพื่อบรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ
4. ช่วยย่อยอาหารและขับลม
- มีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
- บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลม
5. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- งานวิจัยพบว่า สารสกัดจากผักชีฝรั่ง อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
6. ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
- มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
การนำผักชีฝรั่งไปใช้ในอาหาร
1. อาหารไทยที่ใช้ผักชีฝรั่ง
- ลาบ น้ำตก – ใช้ใบผักชีฝรั่งโรยหน้าเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
- ต้มแซ่บ ต้มยำ – ใช้ใบผักชีฝรั่งเพิ่มรสชาติให้ซุป
- ก้อย พล่า – ผสมในอาหารประเภทยำ
2. อาหารนานาชาติที่ใช้ผักชีฝรั่ง
- Pho (เฝอ) – ซุปเวียดนามที่ใช้ผักชีฝรั่งเป็นส่วนประกอบหลัก
- Salsa Verde – ซอสเม็กซิกันที่ใช้ผักชีฝรั่งเพิ่มความหอม
- Chadon Beni Chutney – ซอสแคริบเบียนที่ใช้ใบผักชีฝรั่งเป็นส่วนผสม
3. การแปรรูปผักชีฝรั่ง
- แห้งและบดเป็นผง – ใช้เป็นเครื่องเทศปรุงอาหาร
- น้ำมันสกัดจากใบและราก – ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและยา
วิธีการปลูกและดูแลผักชีฝรั่ง
1. การเลือกสถานที่ปลูก
- ปลูกได้ทั้งในแปลงดินและกระถาง
- ต้องการแสงแดดรำไร แต่ไม่ควรโดนแดดจัดตลอดวัน
2. การปลูกผักชีฝรั่ง
- ใช้วิธี เพาะเมล็ด หรือ แยกหน่อจากต้นแม่
- รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ
3. การดูแลรักษา
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตดี
- ควรกำจัดวัชพืชเพื่อป้องกันโรคและแมลง
4. การเก็บเกี่ยว
- สามารถเก็บใบได้เมื่ออายุ 40-50 วัน
- เก็บเกี่ยวรากได้เมื่ออายุ 3-4 เดือน
ข้อควรระวังในการบริโภคผักชีฝรั่ง
- ผู้ที่แพ้ผักชีฝรั่ง อาจมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคันหรือแน่นหน้าอก
- ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน
- หญิงตั้งครรภ์ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
สรุป
- ผักชีฝรั่ง (Culantro) เป็นพืชสมุนไพรที่มีลักษณะคล้ายผักชี แต่กลิ่นหอมแรงกว่า
- สามารถใช้ได้ทั้งใบ ราก และเมล็ด ในการปรุงอาหารและทำยา
- มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ขับลม บำรุงกระดูก และช่วยย่อยอาหาร
- เป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
ผักชีฝรั่งจึงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลาย ควรค่าแก่การนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน!